อีกไม่กี่สัปดาห์เราก็จะก้าวเข้าสู่ปี 2567 กันแล้วนะคะ ซึ่งเมื่อก้าวสู่ปีใหม่ หลายๆอย่างในองค์กรของเราก็ต้องปรับเปลี่ยนใหม่ตาม เช่นเดียวกันกับอัตราค่าจ้างที่มีแนวโน้มจะปรับขึ้น ผ่านผลสำรวจของ Mercer
ทาง Mercer ได้ทำการสำรวจ 617 องค์กรจาก 7 อุตสาหกรรมในประเทศไทย ได้แก่ เทคโนโลยีขั้นสูง วิทยาศาสตร์สุขภาพ สินค้าอุปโภคบริโภค อุปกรณ์การขนส่ง การค้าปลีกและค้าส่ง เคมี และผู้ผลิตอื่น ๆ
จากผลสำรวจ Mercer คาดการณ์ว่า ค่ามัธยฐานการขึ้นเงินเดือนประจำปีของประเทศไทยจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในปี 2567 อยู่ที่ 5% จากเดิมที่ปีนี้ค่ามัธยฐานอยู่ที่ 4.8% เนื่องจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจากโควิด-19 และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเพื่อไทยค่ะ
“การปรับอัตราการขึ้นเงินเดือนนี้ เป็นไปในทิศทางเดียวกับอัตราเงินเฟ้อ และการที่ค่าจ้างขั้นต่ำในประเทศไทย ปรับขึ้นในช่วงกลางปีที่ผ่านมา ซึ่งช่วยให้แรงงานที่มีรายได้น้อยคลายความกังวลในด้านค่าครองชีพที่สูงขึ้น แม้การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำนี้อาจส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อ เพราะทำให้มีเงินหมุนเวียนในมือประชาชนมากขึ้น และเพิ่มแรงกดดันให้กับภาคธุรกิจ แต่แนวโน้มเศรษฐกิจโดยรวมของไทยยังคงสดใสเมื่อเทียบกับช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา” นี่คือบทสัมภาษณ์ที่ เมลลา หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ บริษัท เมอร์เซอร์ ประจำประเทศไทยได้กล่าวไว้ค่ะ
ซึ่งหากทุกท่านดูในตารางด้านล่างจะเห็นได้ว่าประเทศไทยนั้นอยู่ในอันดับกลางๆ ของเอเชีย แต่ถึงอย่างนั้นก็ถือว่าอยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยภูมิภาคเอเชียที่คาดว่าค่ามัธยฐานจะอยู่ที่ 5.2% ซึ่งประเภทอุตสาหกรรมที่จะมีการปรับเงินเดือนเพิ่มขึ้นสูงที่สุดในปี 2567 คือ วิทยาศาสตร์สุขภาพ เทคโนโลยีขั้นสูง และยานยนต์ โดยมีอัตราการขึ้นเงินเดือนเท่ากันที่ 5% ค่ะ
แองจี้มั่นใจว่าองค์กรของทุกท่านต่างเริ่มวางแผน และเตรียมตัวสำหรับปี 2567 นี้กันเป็นอย่างดี เพราะในปี 2567 นี้หลายๆ อย่างกำลังจะเปลี่ยน และพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด ดังนั้น แองจี้ขอเป็นกำลังใจ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการพาองค์กรในประเทศไทยให้ก้าวหน้าไปด้วยกันค่ะ